การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทั้งข้อ (Total Knee Arthroplasty)
ข้อเข่าเทียม เป็นการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนผิวข้อเข่า / การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมที่ต้นเหตุ ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นมาก และเป็นการรักษาที่มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ไม่มากนัก ซึ่งมีอยู่ 2 วิธีคือ
- การเปลี่ยนผิวข้อเข่าบางส่วน
- การเปลี่ยนผิวข้อเข่าทั้งหมด
ความหมาย
การผ่าตัดที่ใช้ในการรักษาภาวะข้อเข่าเสื่อมขั้นรุนแรงโดยการนำเอาส่วนผิวข้อเข่าที่เสื่อมแล้วออกไป แล้วทดแทนด้วย ผิวข้อเข่าเทียมทั้งหมด ทั้งส่วนของกระดูก Femur, Tibia และ Patella
ข้อบ่งชี้ในการผ่าตัด
เนื่องจากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเป็นการผ่าตัดเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต โดยสามารถทำให้ผู้ป่วยหายจากอาการปวดทรมาน สามารถเดินขึ้นและ ลงบันไดได้ดีขึ้น ระยะทางที่เดินได้ไกลมากขึ้น รวมถึงรูปร่างของข้อเข่าดูสวยงามขึ้น แต่เนื่องจากข้อเข่าเทียม มีอายุใช้งานโดยเฉลี่ยประมาณสิบกว่าปี แล้วจะหลุดหลวม ซึ่งจำเป็นต้องทำผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าใหม่อีกครั้ง จึงมีข้อบ่งชี้ที่เหมาะสม ดังนี้
- ผู้ป่วยสูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปที่มีโรคข้อดังกล่าวในระยะปานกลางและท้ายซึ่งมีอาการปวด ขัดมาก รักษาโดยใช้วิธีทานยา กายบริหาร ใส่เครื่องช่วยพยุง และจำกัดกิจกรรม แล้วไม่ได้ผล
- อาการข้อเข่าโก่งผิดรูป หรือเหยียดงอได้น้อยกว่าปกติ ที่ตรวจพบว่าเกิดร่วมกับข้อเข่าเสื่อมและมีอาการปวด ขัด
- ผู้ป่วยอายุน้อยตั้งแต่ 60 ปีลงมาที่มีโรคข้อเสื่อมมากจากเคยมีกระดูกหักหรือเหตุต่างๆของข้อมาก่อน ที่มีอาการปวด ขัด เป็นมากรักษาวิธีอื่นๆแล้วไม่ได้ผล และไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม โรคข้ออักเสบต่างๆเช่น รูมาตอยด์ เก๊าท์ เอสแอลอี เป็นต้น ที่มีอาการปวด ขัด เป็นมาก รักษาวิธีอื่นๆแล้วไม่ได้ผล
ข้อห้ามการทำผ่าตัดข้อเข่าเทียม
- ข้อเข่าอักเสบติดเชื้อ
- ข้อเข่าเสื่อมแบบมีความผิดปกติของการรับรู้อาการปวด
ภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัด
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ชนิดหนึ่ง อาจทำให้เกิดข้อแทรกซ้อนจากการผ่าตัด หรือผลกระทบจาก การผ่าตัด ซึ่งไม่ต่างจากการผ่าตัดใหญ่ทั่วๆไป แต่เนื่องจากการผ่าตัดชนิดนี้เป็นการผ่าตัดที่นัดหมายเวลาได้ จึงทำให้ในปัจจุบันนี้ มีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดข้อแทรกซ้อนจากการผ่าตัดเป็นอย่างดีก่อนการผ่าตัด ทำให้ข้อแทรกซ้อนจากการผ่าตัด เปลี่ยนข้อเข่าเทียมในปัจจุบันพบได้น้อยมาก ข้อแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น มีดังนี้
- การติดเชื้อของแผลผ่าตัด
- ความไม่มั่นคงของข้อ ข้อเทียมหลุดหลวม
- กระดูกหักบริเวณรอบๆข้อเทียม
- ข้อเทียมชำรุด หรือ หัก
- แนวขาผิดปกติหลังการผ่าตัด
- เส้นประสาททำงานผิดปกติ
- เส้นเลือดฉีกขาด
- ลิ่มเลือดอุดตันที่ขา
- ขายาวไม่เท่ากัน
- งอข้อเข่าไม่ได้เท่าที่ควร
ผู้ป่วยที่มีโอกาสเกิดข้อแทรกซ้อนได้สูงกว่าคนทั่วไป
- ผู้ป่วยที่มีโรคทางอายุรกรรมที่ควบคุมไม่ดี เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน
- ผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัวมากเกิน 102 กิโลกรัม
- ผู้ป่วยที่มีกระดูกบางมาก หรือกระดูกมีขนาดเล็กมาก
วิธีการผ่าตัด
แพทย์จะเปิดแผลผ่าตัดบริเวณหัวเข่ายาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร เมื่อเปิดเข้าข้อแล้ว แพทย์จะผ่าตัดเอาผิวกระดูก ส่วน ต้นขา ออกหนาไม่เกิน 9-10 มิลลิเมตร และผิวกระดูกส่วนหน้าแข้งออกหนาไม่เกิน 10 มิลลิเมตรและผิวกระดูกสะบ้าออก ประมาณ ไม่เกิน 8 มิลลิเมตร กระดูกที่เอาออกมาจากทั้ง 3 ส่วนนั้น เป็นส่วนที่เป็นผิวของข้อเข่าที่เสื่อมสภาพ ถ้าเปรียบกับพื้นบ้าน ก็คง เหมือนกับการที่เราเอากระเบื้องปูพื้นที่สึกหรือชำรุดออกแล้วเตรียมพื้นบ้านใหม่ จากนั้นก็ปูกระเบื้องชุดใหม่เข้าไปแทน
ไม่เพียงแต่เอากระดูกที่เสื่อมออก การผ่าตัดยังมีความละเอียดกว่านั้นคือ แพทย์จะต้องปรับความตึงหรือหย่อนของเนื้อเยื่อ รอบข้อเข่า เพื่อให้ขาดูรูปร่าง ปกติ ไม่โก่งผิดรูป และยังต้องตั้งตำแหน่งการวางผิวข้อเทียมให้ถูกต้อง ซึ่งขั้นตอนนี้เปรียบเสมือน การตั้งศูนย์ล้อของรถยนต์ ตำแหน่งที่ถูกต้องจะทำให้ผู้ป่วย เดินได้ดี และข้อเข่าเทียมจะมีความทนทาน ซึ่งขั้นตอนนี้ ต้องอาศัย แพทย์ที่มีความชำนาญ หรือมีประสบการณ์สูง หรือควรมีอัตราการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าขั้นต่ำ ในแต่ละปีมากกว่า 30 รายขึ้นไป ซึ่งแพทย์ที่ชำนาญจะสามารถหาจุดอ้างอิงต่าง ๆ บนกระดูกข้อเข่าได้อย่างง่าย และแม่นยำ จากนั้นก็ประกอบเครื่องมือ ที่ใช้ในการ ตัดกระดูก ซึ่งมีการกำหนดค่ามุมในท่าเหยียด งอข้อเข่า และขนาดของข้อเทียมที่เหมาะสม นอกจากนั้นแล้ว แพทย์ยังต้องตรวจสอบ ดูการ เคลื่อนไหวของข้อให้ได้ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยคนนั้นๆด้วย
โดยทั่วไปผิวข้อเทียมที่ใส่เข้าไปนั้นจะมีความหนา และมีขนาดใกล้ เคียงกับผิวกระดูกส่วนที่ถูกตัด ออกไป และการที่แพทย์ ใช้สารยึดกระดูก ในการยึดผิวข้อเทียมกับกระดูกจะทำให้การยึดติดของข้อเทียมกับกระดูกมีความแข็งแรงมาก จนสามารถให้ผู้ป่วย เดินลงน้ำหนักได้หลังจากการผ่าตัดอย่างรวดเร็ว
ขอบคุณที่มา : http://www.firstphysioclinic.com/
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์กระดูกและข้อ
โรงพยาบาลเอกชัย โทร. 1715 หรือ 034-417-999 ต่อ 132
View our Specialists in our Orthopaedic Doctors page