ข้อควรทราบเกี่ยวกับการทานอาหารลดน้ำหนักของเรา
1. เพื่อให้เกิดผลดีและเกิดประโยชน์สูงสุด ท่านควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดในการรับประทานอาหาร โดยไม่รัยประทานอาหารอื่นนอกเหนือจากรายการที่จัดให้
2. ไม่ควรสลับมื้ออาหารกัน เพราะอาหารที่จัดให้คำนึงถึงลักษณะการใช้ พลังงานของร่างกายในแต่ละวัน ดังนั้นอาหารที่ได้รับ ในแต่ละวันยังคงได้รับพลังงานครบถ้วน
3. กรณีที่เกิดความหิว แนะนำให้เลือกทานธัญพืชชนิดแท่ง, เครื่องดื่มผสมธัญพืช, น้ำนมถั่วเหลือง หรือนม 1 แก้วก่อนนอนได้ ไม่ควรทานเป็นอาหารจานหลัก เช่น ข้าว ส้มตำ เพราะนอกจากจะไม่ช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังเพิ่มความอยากในการรับประทานอาหารอีกด้วย และเพื่อให้กระบวนการทำงานของร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดี ควรรับประทานอาหารเย็นไม่เกิน 1 ทุ่ม และไม่ควรรีบนอนทันทีหลังทานเสร็จ
4. ผู้ที่ติดเครื่องดื่ม ประเภทชาจีน กาแฟ สามารถทานได้แต่ลดปริมาณครีมเทียม น้่ำตาลเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเทียม หรือทางที่ดีเลือกรับประทานเป็นกาแฟดำ และไม่ควรทานกาแฟหลัง 12.00 น. เพราะในผู้ลดน้ำหนักบางรายทานกาแฟแล้วเกิดการนอนไม่หลับส่งผลให้ การลดน้ำหนักไม่ได้ผลเท่าที่ควร
5. ควรงดเครื่องดื่มบางประเภท น้ำอัดลมทุกชนิด ชาสำเร็จรูป กาแฟสด กาแฟถุงกระดาษ รวมถึงชาไข่มุก เต้าหู้นมสด ฯลฯ
6. กรณีมีความจำเป็นต้องรับประทานอาหารนอกบ้านหรือร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ ให้เลือกทานอาหารประเภทกากใยให้มาก ไม่เน้นอาหารคาร์โบไฮเดรต แล้วจดบันทึกไว้เพื่อปรึกษาโภชนากรอีกครั้ง
7. อาหารสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้เพื่อรักษาสภาพความสดของอาหาร ก่อนรับประทานอาหารควรอุ่นอาหารก่อนประมาณ 1-3 นาที
8. หากท่านมีการบริโภคอาหารมากเกินกำหนด ท่านควรเริ่มโปรแกรมควบคุมอาหารใหม่ทั้งสัปดาห์
9. กรณีที่ท่านทานมังสวิรัติ สามารถแจ้งทางเราได้เพื่อทำการปรับเปลี่ยนเมนูให้เหมาะสม
10. กรณีเป็นโรคประจำตัวสามารถทานอาหารของเราได้ โดยให้อยู่ในความดูแลของโภชนกรอย่างใกล้ชิด เช่น โรคเบาหวาน ความดัน ไขมัน เป็นต้น
ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
จากการวิจัยทางคลินิกพบว่า การลดน้ำหนักมากๆในระยะเวลาอันรวดเร็วจะเกิดผลเสียต่อสุขภาพและมักทำให้น้ำหนักกลับมาอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงมีข้อแนะนำว่า ถ้าต้องการลดน้ำหนักควรจะเริ่มลดที่ 5-10% ของน้ำหนักปัจจุบันในช่วงเวลา 6- 8 เดือน ซึ่งหมายความว่าต้องลดให้ได้ 1 ปอนด์ (200 -500 กรัม) ภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งจากการศึกษาทางคลินิกพบว่าการลดน้ำหนักเพียง 5% จะทำให้คุณสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บ หรือ จากโรคที่รุนแรง เช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจลงได้อย่างมีนัยสำคัญ
การที่น้ำหนักลดลงจะมีผลต่อสุขภาพอย่างทันที เช่น ทำให้อาการปวดกล้ามเนื้อลดลงการหายใจและการนอนหลับดีขึ้น มีพลังเพิ่มขึ้นและรู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น ที่สำคัญที่สุด คือการที่น้ำหนักลงอย่างช้าๆ นั้น มาจากไขมันที่สะสมในร่างกาย มากกว่าเนื้อเยื่อที่ไม่มีไขมัน เช่น กล้ามเนื้อ นั้นหมายถึงว่า โอกาสที่น้ำหนักของคุณจะกลับมาเพิ่มอีกมีน้อย
คำแนะนำสำหรับการควบคุมน้ำหนักตัวให้คงที่
1. กินอาหารให้สมดุล ควบคุมสัดส่วนและปริมาณอาหารให้พาเหมาะ ในแต่ละวัน
2. กินอาหารให้ครบทั้งสามมื้อ ไม่ควรงดมื้อใดมื้อหนึ่ง
3. กินอาหารให้พออิ่ม ไม่บริโภคมากจนเกินไป
4. กินอาหารธรรมชาติไม่แปรรูป เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี
5. กินผักผลไม้ให้เพียงพอ
6. กินอาหารมื้อเย็นห่างจากเวลานอนไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง
7. รู้จักหลีกเลี่ยงอาหารมันจัด หวานจัด เค็มจัดและอาหารในรูปไขมันแฝง เช่น เนย มาการีน อาหารประเภทคุกกี้ มันฝรั่งทอด ทองหยอด โรตี สายไหม ขนมขบเคี้ยว
หลักเกณฑ์ในการเลือกใช้วิธีการควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก
1. งด หรือลดอาหารจำพวกไขมันให้น้อยลง
2. การควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่มาจากอาหารในแต่ละวัน
3. เลือกรับประทานอาหารที่มีโภชนาการสมดุลในแต่ละมื้อ การทานอาหารมื้อใหญ่เพียงไม่กี่มื้อในแต่ละวัน ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ มื้ออาหารที่ขาดหายไปจะทำให้น้ำหนักลงช้า การรับประทานน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง รวมทั้งการทานอาหารว่างจะช่วยให้น้ำหนักลงเร็วขึ้น