มีสาเหตุจากการที่กล้ามเนื้อหัวใจได้รับออกซิเจนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เกิดขึ้นเมื่อหัวใจต้องการออกซิเจนมากขึ้น จากการกำลังออกกำลังกาย รับประทานอาหาร หรือมีภาวะเครียด ตื่นเต้น เป็นต้น ซึ่งออกซิเจนที่จะไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจนั้น จะมาจากปริมาณของเลือดที่ไหลเวียนไปยังหัวใจ

หากปริมาณเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงหัวใจลดน้อยลง ซึ่งสาเหตุอาจเกิดมาจากการที่หลอดเลือดหัวใจอุดตันบางส่วนหรืออุดตันทั้งหมด จากการสะสมของไขมันและคอเลสเตอรอล สามารถทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้ หากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดนานเกิน 2-3 นาที จะได้รับความเสียหาย จนสามารถทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายหรือหัวใจวายได้ และอาจอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิต

ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด มีอะไรบ้าง ?

  • เพศ จากสถิติพบว่าเพศชายมีความเสี่ยงมากกว่าเพศหญิง
  • อายุที่เพิ่มมากขึ้น จากสถิติผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด พบในเพศชายที่อายุมากกว่า 45 ปี และในเพศหญิงที่อายุมากกว่า 55 ปี
  • ผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง
  • ผู้ที่มีระดับไขมันในเลือดสูง ไขมันจะสามารถเกาะตามผนังหลอดเลือดหัวใจด้านใน ทำให้หลอดเลือดตีบแคบลง ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้
  • ผู้ที่มีโรคเบาหวาน ทำให้เพิ่มโอกาสให้หลอดเลือดแดงตีบแข็งได้
  • การสูบบุหรี่ เนื่องจากสารนิโคตินในบุหรี่ จะส่งผลทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัว ความยืดหยุ่นของหลอดเลือดลดลง
  • ขาดการออกกำลังกาย ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก การเผาผลาญพลังงานน้อย ทำให้เกิดการสะสมของไขมัน
  • ความเครียด ทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญไขมันในหลอดเลือดผิดปกติได้

อาการแสดงของภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด มีอะไรบ้าง ?

  • มีอาการเจ็บหน้าอก โดยจะเจ็บแน่นอยู่บริเวณใต้หน้าอก อาจมีอาการเจ็บร้าวไปที่บริเวณแขน หัวไหล่ คอ หรือกรามได้ อาการจะเป็นอยู่ประมาณ 5 – 10 นาที อาการที่เป็นมักถูกกระตุ้นจากการออกแรง ภาวะเครียด หากนั่งพักแล้วอาการจะดีขึ้น หรือบางรายที่มีอาการของภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดแบบเฉียบพลัน แม้ไม่ได้มีการออกแรง ก็สามารถมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกอย่างต่อเนื่อง ในขณะพักได้
  • เหนื่อยขณะออกแรง หายใจลำบาก หรือหายใจเร็ว หอบ
  • เหนื่อย เพลีย นอนราบไม่ได้
  • เหงื่อออกตัวเย็น แม้ไม่ได้ออกกำลังกาย
  • คลื่นไส้ หรืออาเจียน
  • หมดสติหรือหัวใจหยุดเต้น

เราสามารถป้องกันภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้อย่างไร ?

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
  • ควบคุมและรักษาโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง เป็นต้น ซึ่งเป็นภาวะที่เพิ่มความเสี่ยงของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
  • รับประทานผัก ผลไม้ ให้มากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว และควรควบคุมระดับคอเลสเตอรอลให้อยู่ในระดับที่แพทย์แนะนำ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ควบคุมน้ำหนักตัว ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
  • เลิกสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสอง
  • จัดการกับความเครียด โดยอาจหากิจกรรมเพื่อสร้างความผ่อนคลาย
  • ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่เบอร์ 034-417-999 ต่อ 110, 111 ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลเอกชัย หรือสายด่วน 1715

แพทย์อายุรกรรมด้านหัวใจ